Contents

ช้อปดีมีคืน (ยกเลิกแล้ว)

631,830 views

โดย ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำวิชากฎหมายภาษีอากร

ช้อปดีมีคืน 2566 หรือ ค่าลดหย่อนช้อปดีมีคืน 2566 หรือที่เรียกว่าเต็มๆ ว่า “ค่าซื้อสินค้าหรือบริการในราชอาณาจักร” ใช้เป็น ค่าลดหย่อน ได้สำหรับค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2566 ตามจำนวนที่จ่ายจริง (รวม VAT แล้ว) แต่สูงสุดไม่เกิน ฿40,0001

ช้อปดีมีคืน 2566 เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


วิธีกรอกค่าลดหย่อน ช้อปดีมีคืน บนแอป iTAX

หากคุณต้องการใช้สิทธิค่าลดหย่อนช้อปดีมีคืน สามารถนำมาคำนวณบนแอป iTAX ได้ดังนี้

  1. ในหน้าแรก (Home) กดที่ »  ค่าลดหย่อน
  2. เลือก ‘ช้อปดีมีคืน’
  3. กรอกจำนวนค่าซื้อสินค้า/บริการ ที่จ่ายตั้งแต่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566 โดยใช้ตัวเลขรวม VAT แล้ว (ถ้ามี)
  4. กด Done

แอปจะพากลับไปที่หน้า Home และแสดงผลการคำนวณภาษีหลังใช้สิทธิค่าลดหย่อนช้อปดีมีคืนแล้วให้อัตโนมัติ


สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ

ผู้ที่จ่ายเงินสำหรับค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการให้ผู้ประกอบจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และผู้ประกอบกิจการขาย หนังสือ (รวมถึง e-book) และสินค้า OTOP ภายในประเทศ ใช้เป็น ค่าลดหย่อน ได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดปีละไม่เกิน ฿40,000 (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)2 ทั้งนี้ หากซื้อสินค้า/บริการแล้วได้รับส่วนลด ให้ลดหย่อนได้ตามราคาที่จ่ายจริงหลังหักส่วนลดแล้ว

ทั้งนี้ สิทธิลดหย่อน ฿40,000 แบ่งตามค่าซื้อสินค้าและบริการเป็น 2 ส่วน ดังนี้

  1. ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวน ฿30,000 แรก ที่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
  2. ค่าซื้อสินค้าหรือบริการ อีกจำนวน ฿10,000 (ส่วนเกิน ฿30,000 แรก) ที่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น

ถ้าค่าซื้อสินค้าแค่รายการเดียวก็เกิน ฿40,000 แล้ว และได้รับใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษ จะสามารถนำไปลดหย่อนได้เพียง ฿30,000 เช่น ซื้อคอมพิวเตอร์ราคา ฿45,000  (รวม VAT แล้ว) โดยได้รับใบกำกับภาษีในรูปแบบกระดาษ จะใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดเพียง ฿30,000

สาเหตุเนื่องจากกรณีนี้จะได้สิทธิลดหย่อนจากวงเงิน ฿30,000 แรกที่มีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่จะไม่ได้สิทธิอีก ฿10,000 เนื่องจากไม่ได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

แต่ถ้าค่าซื้อสินค้าแค่รายการเดียวก็เกิน ฿40,000 แล้ว และได้รับใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะสามารถนำไปลดหย่อน ฿40,000 เช่น ซื้อคอมพิวเตอร์ราคา ฿45,000  (รวม VAT แล้ว) โดยได้รับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ จะใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด ฿40,000

สาเหตุเนื่องจากกรณีนี้จะได้สิทธิลดหย่อนจากทั้งวงเงิน 30,000 แรกที่มีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ และอีก 10,000 บาท จากใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ คุณสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร etax.rd.go.th

ในกรณีสามีและภริยาต่างฝ่ายต่างมีรายได้ ต่างฝ่ายสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดคนละ ฿40,000

ทั้งนี้ ถ้ามีค่าซื้อสินค้าหลายรายการ คุณสามารถรวมค่าซื้อสินค้าย่อยๆ ทุกจำนวนมาหักลดหย่อนได้แต่เมื่อรวมแล้วจะนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน ฿40,000

เงื่อนไขการรับสิทธิ

คุณเองก็มีสิทธิหักลดหย่อนค่าลดหย่อนช้อปดีมีคืนสูงสุด ฿40,000 ได้ถ้าทำตามเงื่อนไขทั้งหมดต่อไปนี้

  • เป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นระหว่าง 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566
  • เป็นสินค้าหรือบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม3 หรือเป็นสินค้าประเภทหนังสือ4 (รวมถึง e-book)5 และ สินค้า OTOP6

อนึ่ง แม้เป็นบุคคลต่างชาติ แต่ถ้าต้องยื่นภาษีในไทยก็สามารถใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืนได้

สินค้าและบริการที่ลดหย่อนภาษีได้

1. สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

โดยปกติสินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มจะมีใบกำกับภาษีออกมาพร้อมกันด้วย ซึ่งการใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืนจะต้องใช้ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบกระดาษหรือแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรากฏชื่อและข้อมูลผู้ซื้อด้วย (ไม่สามารถใช้ใบกำกับภาษีอย่างย่อได้)

ตัวอย่างสินค้าหรือบริการที่ลดหย่อนช้อปดีมีคืน 2566 ได้ เช่น เติมน้ำมันรถยนต์ คอมพิวเตอร์ เสื้อผ้าแบรนด์เนม ของใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

2. หนังสือ (รวมถึง e-book)

หนังสือ และ e-book ในที่นี้ไม่รวมถึงนิตยสารและหนังสือพิมพ์ โดยผู้ขายต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเท่านั้น (เจ้าของร้านหนังสือเป็นบุคคลธรรมดาใช้ลดหย่อนไม่ได้)

3. สินค้า OTOP

สินค้า OTOP ที่ลดหย่อนภาษีได้จะต้องเป็นสินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว โดยจะเป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่ก็ได้ แต่ในหลักฐานต้องระบุว่า “สินค้าทุกรายการเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์”

ตัวอย่างรายการสินค้า และบริการ ที่ลดหย่อนช้อปดีมีคืน 2566 ได้ (สำหรับค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ตั้งแต่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566)

คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์
Studio7
AIS
BaNANA
Lenovo
Toshiba Thailand Shopping
Mercular
อุปกรณ์กีฬา
adidas
Mizuno
เสื้อผ้า แฟชั่น
New Central Online
True Shopping
anello
Keds
RS Mall
ของใช้ในบ้าน
ShopAt24
OfficeMate
Tops Online
Big C
หนังสือ และ e-book
Kinokuniya
นายอินทร์
SE-ED
B2S

สินค้าและบริการที่ไม่ได้รับสิทธิลดหย่อน

สิทธิลดหย่อน “ช้อปดีมีคืน” นี้ ไม่รวมสินค้าและบริการต่อไปนี้7

  • ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
  • ค่ายาสูบ
  • ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
  • ค่าซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร (หนังสือทั่วไปยังใช้ลดหย่อนภาษีได้)
  • ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (หนังสือ e-book ทั่วไปยังใช้ลดหย่อนภาษีได้)
  • ค่าบริการจัดนำเที่ยว
  • ค่าที่พักในโรงแรม
  • ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
  • ค่าบริการโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต
  • เบี้ยประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์
  • ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าว นอกเหนือจากระยะเวลา 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 (เช่น ค่าบริการ Fitness ระยะเวลา 3 เดือน หรือคอร์สออนไลน์ที่ดูได้เป็นเวลา 1 ปี เป็นต้น)

นอกจากนี้ สินค้าและบริการต่อไปนี้ก็ไม่เข้าเกณฑ์ใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืนได้

  • ทองคำแท่ง
  • ค่ารักษาพยาบาล
  • ค่าทำศัลยกรรม
  • ผักผลไม้สด
  • เนื้อสัตว์สด
  • หน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์

ข้อสังเกตเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ใช้สิทธิลดหย่อน ‘ช้อปดีมีคืน’ ได้

  1. หากร้านค้านั้นไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (จด VAT) สินค้าและบริการที่ร้านนั้นขายจะไม่สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ยกเว้น เป็นการขายหนังสือ, e-book หรือเป็นสินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนเท่านั้น
  2. หากร้านค้านั้นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว แม้จะขายในรูปแบบบริการอย่างเดียว หากบริการนั้นเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น สปา คาราโอเกะ อาบอบนวด ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
  3. ค่าธรรมเนียมเทรดหุ้น และค่าธรรมเนียมซื้อกองทุนรวม (Front-end fee) สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แต่ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนรวม (Management fee) ลดหย่อนภาษีไม่ได้
  4. ค่าซื้อทองรูปพรรณ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้เฉพาะส่วนที่เป็นค่ากำเหน็จหรือบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น ตัวทองคำเองไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
  5. ยารักษาโรค อาหารเสริม ที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ค่าบริการทางแพทย์ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศัลยกรรม โดยปกติจะไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
  6. ค่าที่พักในโรงแรมไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ แต่ค่าอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้
  7. ค่าซื้อบัตรเพื่อแลกรับบริการ และนำบัตรไปใช้บริการในช่วงวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 หรือ ค่าบริการเช่ารถยนต์ ค่าซ่อมรถ/เปลี่ยนยางรถยนต์ที่รับบริการและแล้วเสร็จในช่วงวันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ แต่ถ้ารับบริการก่อนหรือหลังช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่สามารถลดหย่อนได้
  8. อุปกรณ์ไอที เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน เช่น iPhone, iPad, MacBook ไม่ว่าจะซื้อราคาเต็ม หรือซื้อจาก Outlet ก็สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
  9. สินค้าที่ซื้อจากร้าน Duty Free หากเป็นสินค้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มก็สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้
  10. รายการที่ซื้อจะสะสมหลายใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีหลายใบ หรืออยู่ในใบเดียวกันก็ได้ แต่ถ้ายอดซื้อเกิน 40,000 บาท (รวม VAT แล้ว) จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 40,000 บาท
  11. การซื้อของออนไลน์ เช่น ซื้อผ่าน Shopee, Lazada หรือร้านค้าออนไลน์ต่างๆ จะสามารถลดหย่อนภาษีได้ ถ้าซื้อจากร้านที่ออกใบกำกับภาษีได้ โปรดตรวจสอบกับผู้ขายให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ
  12. ในกรณีที่รายการสินค้ามีทั้งเสีย VAT และไม่เสีย VAT อยู่ในใบกำกับภาษีเดียวกัน คุณจะได้สิทธิลดหย่อนเฉพาะสินค้าที่เสีย VAT เท่านั้น เช่น ถ้าซื้อทั้งนมช็อกโกแลต (เสีย VAT) และนมจืด (ไม่เสีย VAT) จะได้สิทธิลดหย่อนเฉพาะนมช็อกโกแลต (เสีย VAT) เท่านั้น
  13. การซื้อสินค้าและบริการจะจ่ายด้วยเงินสด พร้อมเพย์ บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตก็ได้ขอให้ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีลงวันที่ภายใน 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 และมีรายละเอียดครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

หลักฐานที่ต้องใช้

1. ซื้อสินค้าและบริการทั่วไป ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป (ทั้งแบบกระดาษ และแบบ e-Tax Invoice) ที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของคุณ รวมถึงวันที่ รายการและจำนวนเงินด้วย

2. ซื้อหนังสือ (รวมถึง e-book) ใบเสร็จรับเงิน (ทั้งแบบกระดาษ และแบบ e-Receipt) ที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของคุณ รวมถึงวันที่ รายการและจำนวนเงินด้วย

3. ซื้อสินค้า OTOP ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป/ใบเสร็จรับเงิน (ทั้งแบบกระดาษ และแบบ e-Tax Invoice & e-Receipt) ที่ระบุรายการสินค้า OTOP, ข้อมูลผู้ขาย และข้อมูลของคุณ รวมถึงวันที่ รายการและจำนวนเงินด้วย

ทั้งนี้ การระบุชื่อที่อยู่ของผู้ซื้อในใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ให้ยึดข้อมูลล่าสุดตามข้อมูลทะเบียนราษฎร์ (ทะเบียนบ้าน) แต่ถึงแม้จะระบุชื่อที่อยู่ไม่ถูกต้องก็ยังสามารถใช้หักลดหย่อนได้อยู่ดี หากใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีนั้นมีข้อความอื่นๆ ครบถ้วนถูกต้องแล้ว

ใบเสร็จรับเงินที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ (กรณีซื้อสินค้าจากผู้ขายที่ไม่ได้จด VAT)

หากคุณซื้อสินค้าจากผู้ขายที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีช้อปดีมีคืน ใบเสร็จรับเงินต้องมีข้อความครบถ้วนตามนี้

  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ขาย
  • ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ขาย
  • เลขลำดับของเล่มและใบเสร็จรับเงิน
  • วันเดือนปีที่ออกใบเสร็จรับเงิน
  • ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อ
  • ชนิด ชื่อ จำนวน และราคาสินค้าที่ซื้อ
  • จำนวนเงิน

เรื่องที่มักเข้าใจผิดบ่อย

  • หลายคนเข้าใจผิดว่า ค่าลดหย่อนช้อปดีมีคืน สามารถขอรับเป็นเงินสดคืนได้ที่ร้านค้าเลย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะการขอใช้สิทธิลดหย่อนช้อปปิ้งจะต้องทำโดยการ ยื่นภาษีประจำปี 2566 ให้ กรมสรรพากรในช่วงต้นปี 2567 ได้เพียงวิธีเดียวเท่านั้น
  • หลายคนเข้าใจผิดว่า ค่าลดหย่อนช้อปดีมีคืน ฿40,000 คือ เงินคืนภาษีจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม7% (VAT 7% Refund) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะค่าลดหย่อนช้อปดีมีคืน ฿40,000 นี้เป็นสิทธิที่นำไปใช้เป็นค่าลดหย่อนสำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
  • หลายคนเข้าใจผิดว่า ค่าลดหย่อนช้อปดีมีคืน ต้องใช้ค่าสินค้าหรือบริการก่อนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ความจริงแล้วสิทธิลดหย่อนจะเป็นตัวเลขค่าสินค้า/บริการที่รวม VAT แล้ว
  • ถ้าคุณมีรายได้เฉลี่ยเดือนละไม่เกิน ฿25,833.33 (หรือเงินได้สุทธิทั้งปีไม่เกิน ฿150,000) คุณไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวเพื่อขอใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปก็ได้ เพราะคุณอยู่ในเกณฑ์ได้รับยกเว้นภาษีอยู่แล้ว ต่อให้ใช้สิทธิลดหย่อนช้อปปิ้งก็ไม่ช่วยให้ประหยัดภาษีเพิ่มขึ้น
  • ถ้ามีคุณมีคู่สมรสที่ต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ คุณทั้งคู่ก็สามารถใช้สิทธิลดหย่อนช้อปดีมีคืนได้สูงสุดคนละ ฿40,000 (รวม 2 คนได้สิทธิ ฿80,000) ไม่ว่าจะแยกยื่นภาษีหรือยื่นภาษีร่วมกันก็ตาม
  • ถ้าในใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีเดียวกันมีรายการทั้งสินค้าที่เข้าเกณฑ์และไม่เข้าเกณฑ์ลดหย่อน คุณจะได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเฉพาะค่าสินค้าเข้าเกณฑ์ลดหย่อนเท่านั้น
  • หากไม่มั่นใจว่าให้ระบุที่อยู่ผู้ซื้อตามบัตรประชาชนหรือที่อยู่ปัจจุบันดี ให้ระบุที่อยู่ของผู้ซื้อในใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ให้ยึดตามข้อมูลทะเบียนราษฎร์ (ทะเบียนบ้าน) ล่าสุด แต่ถึงแม้ในใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีจะเขียนชื่อหรือที่อยู่ผู้ซื้อสินค้าผิดหรือมีการแก้ไขสามารถ ก็ยังสามารถใช้หักลดหย่อนได้อยู่ หากใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีนั้นมีข้อความเกี่ยวกับผู้ขาย รายละเอียดสินค้าหรือบริการ และองค์ประกอบอื่นๆ ครบถ้วนแล้ว
  • หลายคนเข้าใจผิดว่า ค่าลดหย่อนช้อปปิ้ง ฿40,000 คือ เงินคืนภาษีจากรัฐ ฿40,000 เลย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะได้เงินคืนภาษีเพิ่มมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวน เงินได้ และ อัตราภาษี ของแต่ละคนด้วย
เงินได้สุทธิ อัตราภาษี สิทธิได้เงินคืนภาษีสูงสุด
≤฿150,000 ยกเว้น ฿0
>฿150,000 – ฿300,000 5% ฿2,000
>฿300,000 – ฿500,000 10% ฿4,000
>฿500,000 – ฿750,000 15%  ฿6,000
>฿750,000 – ฿1,000,000 20% ฿8,000
>฿1,000,000 – ฿2,000,000 25% ฿10,000
>฿2,000,000 – ฿5,000,000 30% ฿12,000
>฿5,000,000 35% ฿14,000

เช็กสิทธิประโยชน์ เงื่อนไขการรับสิทธิ์ช้อปดีมีคืนลดหย่อนภาษีแล้ว อย่าลืมคำนวณเงินที่จะใช้เพื่อการช้อปปิ้งและเงินที่จะได้จากการลดหย่อนภาษีให้ดี หรือหากคุณรู้สึกว่า มาตรการช้อปดีมีคืน ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการลดหย่อนภาษีของคุณ

คุณสามารถค้นหาตัวช่วยลดหย่อนภาษีอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ iTAX shop

แอป iTAX คำนวณภาษีและวางแผนภาษี

ตัวช่วยคำนวณภาษีเพื่อเงินคืนภาษีสูงสุด โหลดฟรี!


อ้างอิง

  1. ^

    ข้อ 1 และข้อ 2 กฎกระทรวง ฉบับที่ 386 (พ.ศ.2565)

  2. ^

    ข้อ 1 และข้อ 2 กฎกระทรวง ฉบับที่ 386 (พ.ศ.2565)

  3. ^

    ข้อ 1 และข้อ 2 กฎกระทรวง ฉบับที่ 386 (พ.ศ.2565)

  4. ^

    ข้อ 3 (1) กฎกระทรวง ฉบับที่ 386 (พ.ศ.2565)

  5. ^

    ข้อ 3 (2) กฎกระทรวง ฉบับที่ 386 (พ.ศ.2565)

  6. ^

    ข้อ 3 (3) กฎกระทรวง ฉบับที่ 386 (พ.ศ.2565)

  7. ^

    ข้อ 4 กฎกระทรวง ฉบับที่ 386 (พ.ศ.2565)