ตั้งผู้จัดการมรดก ออนไลน์ ผ่านระบบ e-Filing ศาลยุติธรรม

ทั่วไป

19,231 VIEWS

ยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก ตั้งผู้จัดการมรดก ออนไลน์ ผ่านระบบ e-Filing ศาลยุติธรรม ฟรี ทำด้วยตัวเองได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเดินทางไปศาล

ขั้นตอนการสมัครใช้งาน e-Filing สำหรับยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก

  1. ไปที่เว็บไซต์ efiling3.coj.go.th
  2. เลือกประเภทผู้ใช้งานเป็น “ประชาชน-ยื่นฟ้องในฐานะประชาชน”
  3. กด “ลงทะเบียน”
  4. ยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานศาลยุติธรรมแล้วกด ‘ดำเนินการต่อ’ เพื่อกรอกข้อมูลการลงทะเบียน
  5. กรอกข้อมูลส่วนตัวและที่อยู่
  6. ตั้งรหัสผ่านสำหรับการเข้าสู่ระบบ (รหัสผ่านต้องมีอย่างน้อย 8 ตัวอักษร ประกอบด้วยตัวอักษรใด ๆ และต้องมีอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก และตัวเลขอารบิกอย่างน้อยอย่างละ 1 ตัวอักษร)
  7. กรอกอีเมลและเบอร์โทรศัพท์มือถือที่จะใช้เป็นช่องทางการติดต่อรับข้อมูลการยื่นคำฟ้อง/คำร้อง
  8. แนบไฟล์ ‘บัตรประจำตัวประชาชน’ และ ‘ภาพถ่ายสี (หน้าตรงสุภาพ)’ ขนาดไฟล์ต้องไม่เกิน 1 MB
  9. กด ‘ยืนยันการลงทะเบียน’
  10. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้วสามารถกลับเข้าสู่ระบบและดำเนินการยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก/ตั้งผู้จัดการมรดกได้

ขั้นตอนการยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก “ตั้งผู้จัดการมรดก ออนไลน์” บนระบบ e-Filing ศาลยุติธรรม

  1. ไปที่เว็บไซต์ efiling3.coj.go.th
  2. เลือกประเภทผู้ใช้งานเป็น “ประชาชน-ยื่นฟ้องในฐานะประชาชน”
  3. กด “เข้าสู่ระบบ”
  4. กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และรหัสผ่าน
  5. รอรับรหัส OTP 6 หลักแล้วกรอกเพื่อยืนยันตัวตน
  6. ที่หน้า ระบบยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์สำหรับประชาชน (e-Filing) ให้เลือกปุ่ม “ยื่นคำร้องขอ คดีจัดการมรดก”
  7. กดยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน
  8. เริ่มกรอกข้อมูลตามขั้นตอนทั้ง 8 ขั้นตอน ได้แก่
    1. ศาล/ประเภทคำร้อง
    2. ผู้ร้อง
    3. ผู้ตาย
    4. บัญชีทรัพย์
    5. บัญชีเครือญาติ
    6. ไฟล์เอกสารหลักฐาน
    7. บัญชีพยาน และ
    8. สรุปข้อมูลการยื่นคำร้อง

หมายเหตุ: ควรกดปุ่ม “บันทึกฉบับร่าง” ทุกครั้งที่กรอกข้อมูลในแต่ละหน้าครบถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาข้อมูลสูญหายจนต้องกรอกข้อมูลเดิมซ้ำใหม่เมื่อกลับสู่ระบบครั้งต่อไป

ขั้นตอนที่ 1 กรอกข้อมูลศาล/ประเภทคำร้อง

  1. ระบุที่อยู่ที่ปรากฏในแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรของผู้ตาย เพื่อแสดงรายชื่อศาลในการพิจารณาคดี
  2. ระบุวันเดือนปีและสาเหตุของการตาย
  3. ระบุการมีอยู่ของพินัยกรรม
  4. ระบุจำนวนทายาท
  5. เลือกวิธีไต่สวน

ขั้นตอนที่ 2 กรอกข้อมูลผู้ร้อง

  1. ตรวจสอบข้อมูลของผู้ร้อง
  2. รับรองว่าผู้ร้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย

ขั้นตอนที่ 3 กรอกข้อมูลผู้ตาย

กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ตาย ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ภูมิลำเนา

ขั้นตอนที่ 4 กรอกข้อมูลบัญชีทรัพย์สิน

ระบุรายการบัญชีทรัพย์สินของผู้ตายว่ามีอะไรบ้าง

ขั้นตอนที่ 5 กรอกข้อมูลบัญชีเครือญาติ

ระบุข้อมูลเครือญาติของผู้ตาย ได้แก่

    • บิดามารดา
    • สามีภรรยา
    • บุตรโดยชอบด้วยกฏหมาย
    • บุตรบุญธรรม
    • บุตรนอกกฏหมายที่บิดารับรองโดยพฤตินัย
    • พี่น้องร่วมบิดาและ/หรือมารดาเดียวกัน
    • ผู้รับพินัยกรรมที่ไม่ใช่ทายาท
    • ผู้มีส่วนได้เสีย/เจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม ของเจ้ามรดก

ขั้นตอนที่ 6 อัปโหลดไฟล์เอกสารหลักฐาน

ระบบจะขอให้อัปโหลดไฟล์เอกสารหลักฐานต่อไปนี้

  1. หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว – สกุลของผู้ร้อง
  2. ทะเบียนบ้านผู้ร้อง *จำเป็น
  3. ใบมรณบัตรของผู้ตาย *จำเป็น
  4. ทะเบียนบ้านผู้ตาย
  5. หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว – สกุลของผู้ตาย
  6. ใบสำคัญการสมรส หรือแบบข้อมูลทะเบียนครอบครัวของผู้ตาย
  7. ใบมรณบัตรของผู้รับพินัยกรรมที่ไม่ใช่ทายาท เช่นใบมรณบัตรของบิดาผู้ตาย ใบมรณบัตรของมารดาผู้ตาย ใบมรณบัตรของคู่สมรสของผู้ตายเป็นต้น
  8. หนังสือมอบอำนาจ

เมื่อเลือกไฟล์ที่ต้องการแนบได้แล้ว ให้กดปุ่ม “อัปโหลด” เพื่อให้ระบบบันทึกไฟล์เอกสารหลักฐานของแต่ละรายการด้วย

ขั้นตอนที่ 7 ระบุบัญชีพยาน

ในขั้นตอนนี้ให้ระบุชื่อพยานที่สามารถยืนยันความสัมพันธ์ของผู้ตายได้

ขั้นตอนที่ 8 สรุปข้อมูลการยื่นคำร้อง

ในขั้นตอนนี้ ระบบจะสรุปข้อมูลการยื่นคำร้องให้ตรวจสอบอีกครั้ง

  1. หากตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนถูกต้องแล้วให้กด “ส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่”
  2. กด “ยืนยัน”
  3. ระบบจะแสดงผลส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่สำเร็จ ให้กด “ตกลง”

ขั้นตอนสุดท้าย รอรับการติดต่อจากศาล

เมื่อส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว ผู้ร้องจะได้รับเลขที่อ้างอิงการยื่นคำร้องและชื่อศาล ผ่านทาง SMS/อีเมลอีกครั้ง โดยให้รอเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบต่อไป

 

iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
(100K+)