ตั้งผู้จัดการมรดก ออนไลน์ ผ่านระบบ e-Filing ศาลยุติธรรม

12 Oct 2023
Share on:

ยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก ตั้งผู้จัดการมรดก ออนไลน์ ผ่านระบบ e-Filing ศาลยุติธรรม ฟรี ทำด้วยตัวเองได้ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเดินทางไปศาล

ขั้นตอนการสมัครใช้งาน e-Filing สำหรับยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก (ตั้งผู้จัดการมรดก)

  1. ไปที่เว็บไซต์ efiling3.coj.go.th
  2. เลือกประเภทผู้ใช้งานเป็น “ประชาชน-ยื่นฟ้องในฐานะประชาชน”
  3. กด “ลงทะเบียน”
  4. ยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานศาลยุติธรรมแล้วกด ‘ดำเนินการต่อ’ เพื่อกรอกข้อมูลการลงทะเบียน
  5. กรอกข้อมูลส่วนตัวและที่อยู่
  6. ตั้งรหัสผ่านสำหรับการเข้าสู่ระบบ (รหัสผ่านต้องมีอย่างน้อย 8 ตัวอักษร ประกอบด้วยตัวอักษรใด ๆ และต้องมีอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก และตัวเลขอารบิกอย่างน้อยอย่างละ 1 ตัวอักษร)
  7. กรอกอีเมลและเบอร์โทรศัพท์มือถือที่จะใช้เป็นช่องทางการติดต่อรับข้อมูลการยื่นคำฟ้อง/คำร้อง
  8. แนบไฟล์ ‘บัตรประจำตัวประชาชน’ และ ‘ภาพถ่ายสี (หน้าตรงสุภาพ)’ ขนาดไฟล์ต้องไม่เกิน 1 MB
  9. กด ‘ยืนยันการลงทะเบียน’
  10. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้วสามารถกลับเข้าสู่ระบบและดำเนินการยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก/ตั้งผู้จัดการมรดกได้

ขั้นตอนการยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก “ตั้งผู้จัดการมรดก ออนไลน์” บนระบบ e-Filing ศาลยุติธรรม

  1. ไปที่เว็บไซต์ efiling3.coj.go.th
  2. เลือกประเภทผู้ใช้งานเป็น “ประชาชน-ยื่นฟ้องในฐานะประชาชน”
  3. กด “เข้าสู่ระบบ”
  4. กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และรหัสผ่าน
  5. รอรับรหัส OTP 6 หลักแล้วกรอกเพื่อยืนยันตัวตน หรือเลือกใช้วิธียืนยันตัวตนผ่านแอป ThaID
  6. ที่หน้า ระบบยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์สำหรับประชาชน (e-Filing) ให้เลือกปุ่ม “ยื่นคำร้องขอ คดีจัดการมรดก”
  7. กดยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน
  8. เริ่มกรอกข้อมูลตามขั้นตอนทั้ง 8 ขั้นตอน ได้แก่
    1. ศาล/ประเภทคำร้อง
    2. ผู้ร้อง
    3. ผู้ตาย
    4. บัญชีทรัพย์
    5. บัญชีเครือญาติ
    6. ไฟล์เอกสารหลักฐาน
    7. บัญชีพยาน และ
    8. สรุปข้อมูลการยื่นคำร้อง

หมายเหตุ: ควรกดปุ่ม “บันทึกฉบับร่าง” ทุกครั้งที่กรอกข้อมูลในแต่ละหน้าครบถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาข้อมูลสูญหายจนต้องกรอกข้อมูลเดิมซ้ำใหม่เมื่อกลับสู่ระบบครั้งต่อไป

ขั้นตอนที่ 1 กรอกข้อมูลศาล/ประเภทคำร้อง

  1. ระบุที่อยู่ที่ปรากฏในแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรของผู้ตาย เพื่อแสดงรายชื่อศาลในการพิจารณาคดี
  2. ระบุวันเดือนปีและสาเหตุของการตาย
  3. ระบุการมีอยู่ของพินัยกรรม
  4. ระบุจำนวนทายาท
  5. เลือกวิธีไต่สวน

ขั้นตอนที่ 2 กรอกข้อมูลผู้ร้อง

  1. ตรวจสอบข้อมูลของผู้ร้อง
  2. รับรองว่าผู้ร้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย

ขั้นตอนที่ 3 กรอกข้อมูลผู้ตาย

กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ตาย ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ภูมิลำเนา

ขั้นตอนที่ 4 กรอกข้อมูลบัญชีทรัพย์สิน

ระบุรายการบัญชีทรัพย์สินของผู้ตายว่ามีอะไรบ้าง

ขั้นตอนที่ 5 กรอกข้อมูลบัญชีเครือญาติ

ระบุข้อมูลเครือญาติของผู้ตาย ได้แก่

    • บิดามารดา
    • สามีภรรยา
    • บุตรโดยชอบด้วยกฏหมาย
    • บุตรบุญธรรม
    • บุตรนอกกฏหมายที่บิดารับรองโดยพฤตินัย
    • พี่น้องร่วมบิดาและ/หรือมารดาเดียวกัน
    • ผู้รับพินัยกรรมที่ไม่ใช่ทายาท
    • ผู้มีส่วนได้เสีย/เจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม ของเจ้ามรดก

ขั้นตอนที่ 6 อัปโหลดไฟล์เอกสารหลักฐาน

ระบบจะขอให้อัปโหลดไฟล์เอกสารหลักฐานต่อไปนี้

  1. หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว – สกุลของผู้ร้อง
  2. ทะเบียนบ้านผู้ร้อง *จำเป็น
  3. ใบมรณบัตรของผู้ตาย *จำเป็น
  4. ทะเบียนบ้านผู้ตาย
  5. หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว – สกุลของผู้ตาย
  6. ใบสำคัญการสมรส หรือแบบข้อมูลทะเบียนครอบครัวของผู้ตาย
  7. ใบมรณบัตรของผู้รับพินัยกรรมที่ไม่ใช่ทายาท เช่นใบมรณบัตรของบิดาผู้ตาย ใบมรณบัตรของมารดาผู้ตาย ใบมรณบัตรของคู่สมรสของผู้ตายเป็นต้น
  8. หนังสือมอบอำนาจ

เมื่อเลือกไฟล์ที่ต้องการแนบได้แล้ว ให้กดปุ่ม “อัปโหลด” เพื่อให้ระบบบันทึกไฟล์เอกสารหลักฐานของแต่ละรายการด้วย

ขั้นตอนที่ 7 ระบุบัญชีพยาน

ในขั้นตอนนี้ให้ระบุชื่อพยานที่สามารถยืนยันความสัมพันธ์ของผู้ตายได้

ขั้นตอนที่ 8 สรุปข้อมูลการยื่นคำร้อง

ในขั้นตอนนี้ ระบบจะสรุปข้อมูลการยื่นคำร้องให้ตรวจสอบอีกครั้ง

  1. หากตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนถูกต้องแล้วให้กด “ส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่”
  2. กด “ยืนยัน”
  3. ระบบจะแสดงผลส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่สำเร็จ ให้กด “ตกลง”

ขั้นตอนสุดท้าย รอรับการติดต่อจากศาล

เมื่อส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว ผู้ร้องจะได้รับเลขที่อ้างอิงการยื่นคำร้องและชื่อศาล ผ่านทาง SMS/อีเมลอีกครั้ง โดยให้รอเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบต่อไป

สรุปวิธีการยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก (ตั้งผู้จัดการมรดก) ผ่านช่องทางออนไลน์ e-Filing ของศาลยุติธรรม แบบรวบรัด กรณีที่ไม่มีความซับซ้อน

  1. ไปที่ link https://efiling3.coj.go.th/eFiling/
  2. เลือกประเภท ผู้ใช้งานเป็น “ประชาชน”
  3. เข้าสู่ระบบโดยการยืนยันตัวตนด้วยแอป ThaID
  4. เลือกเมนู “ยื่นคำร้องขอคดีจัดการมรดก”
  5. เลือก “ยอมรับเงื่อนไข” แล้วกด “ดำเนินการต่อ”
  6. กรอกที่อยู่ของผู้ตายที่ปรากฏในแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎรของผู้ตาย (ใบมรณบัตร)
  7. เลือกศาล
  8. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการตาย โดยให้ระบุวันเดือนปีที่เสียชีวิต และสาเหตุการตายตามที่ปรากฏในใบมรณบัตร
  9. ระบุว่ามีพินัยกรรมหรือไม่
  10. ระบุจำนวนทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย
  11. เลือก “ขอไต่สวนคำร้องรอตั้งผู้จัดการมรดกด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์”
  12. กด “ขั้นตอนต่อไป”
  13. ที่หน้าข้อมูลของผู้ร้อง ให้ระบุความสัมพันธ์กับผู้ตาย โดยให้เลือกว่า “ตัวคุณ” มีความสัมพันธ์เป็นญาติทางไหนของผู้ตาย เช่น คุณเป็น “บุตรชอบด้วยกฎหมาย” ของผู้ตาย เป็นต้น
  14. เลือก “ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย” แล้วกด “ขั้นตอนต่อไป”
  15. กรอกรายละเอียดตามบัตรประชาชนของผู้ตาย แล้วกด “ขั้นตอนต่อไป”
  16. ที่หน้าบัญชีทรัพย์ ให้กรอกรายละเอียดทรัพย์มรดกทีละรายการ เช่น
    • ที่ดินโฉนดเลขที่………………ตำบล……………..อำเภอ……………..จังหวัด……………..
    • เงินฝากในบัญชีธนาคาร………………สาขา……………..เลขที่……………..
    • รถยนต์ยี่ห้อ………………เลขทะเบียน……………..จังหวัด……………..
  17. อัพโหลดเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์มรดกรายการนี้ (ถ้ามี) โดยต้องเป็นไฟล์ pdf, jpeg, jpg ขนาดไม่เกิน 1 MB
  18. หากมีทรัพย์มรดกหลายรายการให้กดปุ่ม “+ เพิ่มบัญชีทรัพย์” ที่ด้านบนขวา
  19. เมื่อกรอกรายละเอียดครบถ้วนแล้ว ให้กด “ขั้นตอนต่อไป”
  20. ที่หน้าบัญชีเครือญาติ ให้กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับญาติของของเจ้ามรดก (ผู้ตาย) ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตไปแล้ว แล้วกด “ขั้นตอนต่อไป”
  21. ที่หน้าไฟล์เอกสารหลักฐาน ให้แนบไฟล์เอกสารหลักฐานที่มี โดยเฉพาะทะเบียนบ้านผู้ร้อง และใบมรณบัตรของผู้ตาย โดยต้องเป็นไฟล์ pdf, jpeg, jpg เมื่อกดปุ่มอัพโหลดแล้ว ให้กด “ขั้นตอนต่อไป”
  22. ที่หน้าบัญชีพยาน จะแสดงข้อมูลของผู้ร้อง (ข้อมูลของตัวคุณเอง) ให้กด “ขั้นตอนต่อไป”
  23. ที่หน้าสรุปข้อมูลการยื่นคำร้อง ให้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง เมื่อครบถูกต้องดีแล้ว ให้กด “ส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่” แล้วกด “ยืนยัน” อีกครั้ง
  24. ระบบจะแสดงข้อความ “ส่งคำร้องให้เจ้าหน้าที่สำเร็จ” ให้กด “ตกลง”
  25. คุณจะได้รับ SMS ทางโทรศัพท์มือถือจาก eFilingCOJ โดยจะปรากฏเลขอ้างอิงยื่นคำร้อง และชื่อศาล โดยให้รอการนัดหมายจากศาลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป

 

 

app icon
iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
star star star star star
(100K+)