Contents

เงินบริจาคเพื่อการศึกษา กีฬา โรงพยาบาลรัฐ (ลดหย่อน 2 เท่า)

28,869 views

โดย ผศ. ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำวิชากฎหมายภาษีอากร

เงินบริจาคพิเศษ ใช้เป็นค่าลดหย่อนได้ 2 เท่าของที่บริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและ ค่าลดหย่อน อื่นๆ1 ซึ่งได้แก่ เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา และการพัฒนาสังคม รวมถึงเงินบริจาคให้โรงพยาบาลรัฐ2 ทั้งนี้ สามารถบริจาคผ่าน ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ได้

อัพเดตล่าสุด 2566 เงินบริจาคพิเศษที่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 16 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป จะต้องเป็นการบริจาคผ่านระบบ e-Donation เท่านั้น จึงจะรับสิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า3


วิธีกรอกค่าลดหย่อนเงินบริจาคพิเศษ 2 เท่า บนแอป iTAX

หากคุณต้องการใช้สิทธิค่าลดหย่อนเงินบริจาคพิเศษ 2 เท่า สามารถนำมาคำนวณบนแอป iTAX ได้ดังนี้

  1. ในหน้าแรก (Home) กดที่ »  ค่าลดหย่อน
  2. เลือก ‘บริจาคพิเศษ – การศึกษา, กีฬา, โรงพยาบาล’
  3. กรอกจำนวนเงินเท่าที่บริจาคจริงตลอดทั้งปี (แอปจะคำนวณสิทธิลดหย่อน 2 เท่าให้อัตโนมัติ)
  4. กด Done

แอปจะพากลับไปที่หน้า Home และแสดงผลการคำนวณภาษีหลังใช้สิทธิค่าลดหย่อนเงินบริจาคพิเศษ 2 เท่าแล้วให้อัตโนมัติ


เงินบริจาคสนับสนุนการศึกษา

เงินบริจาคสนับสนุนการศึกษาที่จะนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ต้องเป็นเงินที่บริจาคให้แก่สถานศึกษาของรัฐ โรงเรียนเอกชน สถาบันอุดมศึกษาเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศในพื้นที่ EEC (Eastern Economic Corridor) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับ

  • จัดหาหรือจัดสร้างอาคาร อาคารพร้อมที่ดิน หรือที่ดินให้แก่สถานศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษา
  • จัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา แบบเรียน ตำรา หนังสือทางวิชาการ สื่อ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา หรือ
  • จัดหาครู อาจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา หรือเป็นทุนการศึกษา การประดิษฐ์ การพัฒนา การค้นคว้า หรือการวิจัย สำหรับนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษาของสถานศึกษา

ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.rd.go.th

เงินบริจาคสนับสนุนโรงพยาบาลรัฐ

เงินบริจาคสนับสนุนโรงพยาบาลรัฐที่จะนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ต้องเป็นเงินที่บริจาคให้แก่สถานพยาบาลของทางราชการ4 และให้หมายความรวมถึง

  • สถานพยาบาลของสถานศึกษาของรัฐ
  • สถานพยาบาลขององค์การมหาชน
  • สถานพยาบาลของรัฐวิสาหกิจ
  • สถานพยาบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  • สภากาชาดไทย5
  • สถานพยาบาลของสภากาชาดไทย (เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์)
  • สถานพยาบาลของหน่วยงานอื่นของรัฐ

เงินบริจาคพิเศษอื่นๆ

เงินบริจาคต่อไปนี้สามารถหักลดหย่อนได้ 2 เท่า เช่นเดียวกัน

  • เงินบริจาคสนับสนุนกองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กองทุนสนับสนุนการวิจัยตามกฎหมาย, กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา และกองทุนเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข6
  • เงินบริจาคสนับสนุนการกีฬาให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยต่างๆ ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ http://download.rd.go.th
  • เงินบริจาคให้แก่สถานศีกษาของทางราชการหรือองค์การของรัฐบาล โรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนเพื่อใช้ในการจัดหาหนังสือหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเสริมการอ่าน
  • เงินบริจาคให้กองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาที่กระทรวงศึกษาจัดตั้งขึ้น
  • เงินบริจาคให้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้คนพิการได้รับสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ ตลอดจนสวัสดิการ และความช่วยเหลืออื่นจากรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
  • เงินบริจาคให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
  • เงินบริจาคให้โครงการฝึกอบรมอาชีพ และการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู และสงเคราะห์เด็กและเยาวชนของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน หรือศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน ในกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม

หากในปีภาษีนี้ คุณได้ทำการบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา หรือบริจาคเพื่อองค์กรการกุศลที่กฏหมายกำหนด คุณสามารถนำมาใช้ ลดหย่อนภาษี ได้ และหากคุณไม่แน่ใจว่า ยอดเงินบริจาคของคุณสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษี iTAX เพื่อที่จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนสำหรับการเสียภาษีได้อย่างดีที่สุด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง


อ้างอิง

  1. ^

    มาตรา 5(1) พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 768) พ.ศ. 2566, มาตรา 3(1) พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 616) พ.ศ. 2559, ข้อ 1(1) ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 222)

  2. ^

    มาตรา 3(1) พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 663) พ.ศ. 2561

  3. ^

    มาตรา 5 พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 768) พ.ศ. 2566

  4. ^

    มาตรา 3(1) พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 663) พ.ศ. 2561

  5. ^

    มาตรา 3 พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 706) พ.ศ. 2563

  6. ^

    มาตรา 3(1) พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 668) พ.ศ. 2561