ลงทะเบียน On-site ณ จุดบริการ ฉีควัคซีนโควิด ไม่ต้องจองคิว

ทั่วไป

56,136 VIEWS

วันนี้ (20 พ.ค. 2564) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการเน้นย้ำว่าการฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล และขณะนี้รัฐบาลมีแผนการกระจายวัคซีนโดยจะเปิดระบบการลงทะเบียน ณ จุดบริการ (ลงทะเบียน On-site registration) เป็นอีกช่องทาง เพื่อรองรับประชาชนที่ไม่นัดล่วงหน้าแทนที่ระบบ Walk in หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งเบรคระบบฉีดวัคซีนแบบ Walk-in ของกระทรวงสาธารณสุขไปแล้วในที่ประชุม ครม. ครั้งที่ผ่านมา

ลงทะเบียน On-site Registration ณ จุดบริการ แทนระบบ Walk in

ช่องทางการกระจายวัคซีนโควิด-19 ผ่านการลงทะเบียน ณ จุดบริการ หรือ On-site Registration เป็นปรับจากระบบวอล์กอิน (Walk in) เนื่องจากอาจเกิดความเข้าใจผิดว่า ทุกคนที่เดินทางไปจะได้ฉีดวัคซีนโควิดในวันนั้น จนอาจเกิดปัญหาตามมาได้

การลงทะเบียน ณ จุดบริการ จะมีระบบรองรับและแจ้งประชาชนเมื่อเดินทางไปลงทะเบียนว่า มีวัคซีนสนับสนุนเพียงพอ ณ จุดบริการในวันนั้นเลยหรือไม่ หากจำนวนวัคซีนมีไม่เพียงพอในวันนั้น ก็สามารถให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อนัดหมายจองคิวฉีดวัคซีนในวันอื่นล่วงหน้าแทนได้ เพื่อไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมารอฉีดวัคซีนอีกในวันรุ่งขึ้น โดยช่องทางนี้เป็นการบริการเสริม และสำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทาง กทม. ได้จัดให้มีการกระจายจุดบริการวัคซีนทั่วพื้นที่ในโรงพยาบาล สถานพยาบาล และหน่วยงาน จำนวน 231 แห่ง

เริ่มนำร่องทดลองจุดฉีดวัคซีนนอก ร.พ. 4 แห่งในพื้นที่ กทม.

กรุงเทพมหานครได้เตรียมสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลอีกจำนวน 25 แห่ง โดยได้เตรียมความพร้อมและจัดเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางมาสถานที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ขณะนี้ได้เปิดทดลองระบบแล้ว 4 แห่ง ได้แก่

  1. เซ็นทรัลลาดพร้าว
  2. สามย่านมิตรทาวน์
  3. เดอะมอลล์ บางกะปิ
  4. บิ๊กซี บางบอน

รัฐบาลอาจนำระบบ Walk-in กลับมาเป็นบริการเสริมในอนาคต 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนในการเปิดการฉีดวัคซีนแบบ Walk-in ได้ ถ้าหากพบว่ามีวัคซีนเพียงพอในแต่ละวันในแต่ละจุดที่บริการและมีวัคซีนสำรองเพราะมีผู้ไม่ฉีดวัคซีนตามนัด  แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดและความรุนแรงของโรคโควิด-19 เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งมีการระบาดในหลายคลัสเตอร์ในหลายพื้นที่ จึงเป็นสาเหตุให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจำเป็นต้องตัดสินใจปรับแผนการรับมือเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยส่วนบริการหลักยังเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมและการ Walk-in จะเป็นการบริการเสริม

‘หมอพร้อม’ ยังเป็นเป็นช่องทางหลักสำหรับลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด ส่วน ลงทะเบียน On-site เป็นบริการเสริม

ระบบ “หมอพร้อม” ยังคงเป็นช่องทางหลักให้ประชาชนลงทะเบียนจองคิดฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งจะเป็นการจองคิวล่วงหน้าโดยสามารถเลือกวันเวลาและสถานที่เองได้ โดยที่ผ่านมาเปิดระยะแรกให้ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้เข้ามาลงทะเบียนก่อน ขณะนี้มียอดผู้ลงทะเบียนแล้ว 7.4 ล้านคน โดยแย่งเป็นการลงทะเบียนใน กทม. จำนวนกว่า 8 แสนคน และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18-59 ปี ลงทะเบียนได้เริ่มตั้งแต่ 31 พ.ค. นี้

รัฐบาลตั้งเป้าปีนี้ต้องฉีดวัคซีนทั้งประเทศให้ครบ 50 ล้านคน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ยังมีนโยบายให้เตรียมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มแรงงานในระบบประกันสังคม (ลูกจ้างผู้ประกันตน ม.33) เริ่ม มิ.ย. 2564 โดยกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง และภาคเอกชนจะร่วมมือกันสนับสนุนให้แรงงานในระบบประกันสังคมกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรม การผลิต และภาคบริการ ฟื้นตัวได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายระดมฉีดวัคซีนแบบปูพรมใน กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรใน กทม. หรือ ราว 5 ล้านคน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2564 และตั้งเป้าหมายต้องฉีดวัคซีนให้คนในประเทศครบ 50 ล้านคนให้ได้ภายในปี 2564

iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
(100K+)