รับเงินสดดีกว่า จะไม่ถูกสรรพากรตรวจสอบ จริงหรือ?

SME

6,616 VIEWS

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่เคยเชื่อว่าการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดเป็นเงินสดจะช่วยให้คุณรอดพ้นจากการตรวจสอบของกรมสรรพากร และจะทำให้ธุรกิจของคุณไม่ต้องเสียภาษีนั้น บทความนี้อาจจะทำให้ความคิดคุณเปลี่ยนได้

อย่าประมาทการประเมินผลของกรมสรรพากร

หากอ้างอิงบทความ ทำธุรกิจแบบนี้ เสี่ยงต่อการโดนสรรพากรตรวจสอบนะ รู้ยัง? จะเห็นได้ว่า กรมสรรพากรมีวิธีประเมินธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะหลีกเลี่ยงที่ค่อนข้างชัดเจน และหนึ่งในธุรกิจที่อาจจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของกรมสรรพากรคือ ธุรกิจที่ใช้เงินสดเป็นหลัก นั่นเอง

ในปัจจุบันที่ร้านค้าหลายแห่งปรับตัวให้เข้ากับสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) มากขึ้น แต่เมื่อมีการประกาศใช้ กฎหมายภาษี E-payment ทำให้เรามักจะได้ยินพ่อค้าแม่ค้าหลายคนทำการยกเลิกการจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการผ่านทางช่องทางออนไลน์อย่าง QR Code, Mobile Banking, บัตรเครดิต, บัตรเดบิต กันไปหลายเจ้า เพราะเชื่อกันว่า “หากรับแต่เงินสดจะไม่ต้องเสียภาษี” ทั้งๆ ที่ในความจริงแล้วนี่ถือเป็นความเชื่อที่ผิดอย่างมาก เนื่องจาก ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา กรมสรรพากรตรวจพบว่า

“กลุ่มธุรกิจที่มีลักษณะการขายสินค้าให้ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจรูปแบบของ B2B ที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าที่เป็นองค์กร หรือ B2C ที่มีสินค้าหรือบริการที่ตรงไปยังผู้บริโภคโดยตรง มีแนวโน้มในการหลบเลี่ยงรายได้ค่อนข้างสูง ซึ่งกลุ่มธุรกิจประเภทดังกล่าวนี้ มักจะมีแนวโน้มในการรับชำระสินค้าและบริการเป็นเงินสด”

สรรพากรรู้ได้อย่างไรว่า ธุรกิจของเรารับเงินสด?

อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่า ในปี 2019 กรมสรรพากรได้มีการปรับหลักเกณฑ์ที่ใช้ประเมินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสรรพากรพบว่า วิธีการรับชำระเงินนั้นสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดได้ค่อนข้างแน่นอนและแม่นยำอย่างมาก เนื่องจากสรรพากรมองว่า “วิธีการรับชำระเงินหรือระบบบัญชีที่ใช้สำหรับกิจการนั้นๆ ผ่านการทำธุรกรรมทางการเงินหรือไม่” เพราะ

หากธุรกิจทำธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีบริษัท

เพราะหากธุรกิจมีการทำธุรกรรมทางการเงินโดยผ่านบัญชีของบริษัท นั่นหมายความว่า ประเภทกิจการนั้น หรือ นิติบุคคลรายนั้น มีการจัดทำรายการบัญชีที่มีความสมบูรณ์ ซึ่งจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มกิจการที่ดี ซึ่งไม่ควรจะถูกตรวจสอบภาษี ไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม รวมถึง ควรได้รับบริการที่ดีกว่าด้วยเช่นกัน

หากธุรกิจทำธุรกรรมด้วยเงินสด โดยไม่ผ่านบัญชีของบริษัท

หากคุณทำธุรกิจโดยใช้เงินสดเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น การรับชำระค่าสินค้าหรือบริการเฉพาะเงินสดหน้าร้าน, รับชำระสินค้าโดยให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชี, รวมถึง การรับชำระเงินปลายทาง (ให้ลูกค้าจ่ายเป็นเงินสด แล้วให้แมสเซนเจอร์นำเงินกลับมา) ที่มีการโอนเงินเข้าบัญชีตอนเย็นเป็นก้อนเดียว ธุรกิจหรือกิจการของคุณจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงว่าจะทำบัญชีและยื่นภาษีผิดพลาดสูงตามเกณฑ์ประเมินของกรมสรรพากร และจะไม่สามารถหลบเลี่ยงการประเมินจากเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรได้

ทำไมการรับเงินสดเป็นหลัก จึงมีความเสี่ยงมากกว่า?

จากข้อความข้างต้นอาจทำให้เจ้าของธุรกิจหลายคนรู้สึกว่า ธุรกิจถูกจับตามองจากกรมสรรพากรเป็นพิเศษ และอาจจะยังไม่แน่ใจว่า การทำธุรกิจที่ให้ลูกค้าสามารถจ่ายค่าสินค้าและบริการด้วยเงินสดเพียงอย่างเดียวนั้นผิดตรงไหน เราก็อาจจะต้องบอกว่า

สาเหตุที่ทำให้สรรพากรจับตามองธุรกิจที่รับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยเงินสดมากกว่า ธุรกิจที่มีการรับชำระสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางอื่นๆ ควบคู่ไปกับเงินสด ก็เพราะว่า ในยุคปัจจุบันที่กระแสสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) กำลังมาแรง การรับชำระเงินผ่าน QR Code, หรือช่องทาง e-payment ต่างๆ นั้น เป็นที่นิยมมากขึ้น แต่ธุรกิจของคุณไม่เคยมีบริการพวกนี้เลย จึงเป็นเหตุให้กรมสรรพากรมองว่า ธุรกิจของคุณมีโอกาสที่จะใช้ธุรกรรมเงินสดและส่งผลให้คุณแสดงรายได้ที่ไม่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณมีการทำบัญชีที่ถูกต้องและตรงตามสภาพข้อเท็จจริง ก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า กลุ่มธุรกิจที่มีการจัดทำรายการบัญชีที่สมบูรณ์จะไม่ถูกตรวจสอบภาษีและยังจะได้รับการบริการที่ดีมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย

ส่วนเจ้าของธุรกิจท่านใดที่ไม่อยากถูกตรวจสอบบัญชีและภาษีย้อนหลังนั้น คุณสามารถใช้บริการมืออาชีพผ่าน iTAX sme ได้ เรากล้าการันตีว่า คุณจะได้รับบริการจากมืออาชีพที่จะช่วยให้คุณหายปวดหัวเรื่องบัญชีและภาษีธุรกิจได้อย่างแน่นอน! ติดต่อสอบถามค่าบริการ โทร. 062-486-9787

iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
(100K+)