ทักษิณกลับบ้าน “ศาลฎีกา” ออกหมายจำคุก 3 คดี รวมโทษ 8 ปี

ทั่วไป

ศาลฎีกา ออกหมายจำคุก อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร 3 คดี รวมโทษ 8 ปี ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที หลังเดินทางมาถึงประเทศไทยช่วงเช้า

22 สิงหาคม 2566 – เวลา 10.40 น. พันตำรวจเอก คมวุฒิ จองบุญวัฒนา ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานกรุงเทพ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้นำบุคคลตามหมายจับมาส่งต่อศาลผู้รับมอบอำนาจโจทก์ทั้งสามคดียืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร บุคคลที่อยู่ต่อหน้าศาลเป็นจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้ง 3 คดี

จำเลยหรือจำเลยที่ 1 รับว่าเป็นจำเลยในคดีทั้ง 3 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตรวจสอบบุคคลที่ อยู่ต่อหน้าศาลแล้ว เป็นจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้ง 3 คดี ดังนี้

  1. คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ระหว่าง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ พันตำรวจ โททักษิณ หรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย
  2. คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ระหว่าง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ พันตำรวจโท ทักษิณ หรือนายทักษิณ ชินวัตร ที่ 1 กับพวกรวม 47 คน จำเลย
  3. คดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ของศาลนี้ ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ พันตำรวจโท ทักษิณ หรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย

จึงรับตัวจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดีดังกล่าวไว้

“ศาลฎีกา” ออกหมายจำคุกทั้ง 3 คดี รวมโทษจำคุก 8 ปี

ศาลได้แจ้งให้จำเลยหรือจำเลยที่ 1 ทราบคำพิพากษาแล้ว โดยคดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม.4 /2551 ลงโทษจำคุก 3 ปี (สามปี) คดีหมายเลขดำที่ อายเลขแดงที่ อม. 1/2551 ลงโทษจำคุก 2 ปี (สองปี) และคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ลงโทษจำคุกรวม 5 ปี (ห้าปี) นับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 และต่อจากโทษจำคุกของในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552

ศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในแต่ละคดีแล้ว

ทักษิณ เข้าเรือนจำ เตรียมยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ

ที่หน้าเรือนจำ​พิเศษ​กรุงเทพมหานคร​ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิ สุชีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ร่วมแถลงข่าวผลการรับตัวนายทักษิณ​ ชิน​วัต​ร อดีต​นายกรัฐมนตรี​

นายอายุตม์ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากรับตัวนายทักษิณจากศาลฎีกา กรมราชทัณฑ์​ได้ดำเนินการตามนโยบาย​ 3 ประการ 1.ดูแลเรื่องความปลอดภัยของนายทักษิณ​ เนื่องจากภายในเรือนจำมีผู้ต้องขัง​จำนวนมาก 2.การเยี่ยม​ญาติ​เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญ อาจมีครอบครัว องค์กร​สิทธิฯต่างๆทั้งในและต่างประเทศมาเข้าพบ ซึ่งจะจัดเตรียมสถานที่​ให้เหมาะสม 3.เนื่องจากนายทักษิณ​ เป็นผู้สูงอายุตัองดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยเป็นหลัก​ เพื่อไม่ให้มีการเจ็บป่วย ระหว่างถูกคุมขัง​

ด้านนายสิทธิ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการรับตัวผู้ต้องขังใหม่ พิมพ์​ลายนิ้วมือ​ ตรวจสุขภาพ​ เบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มเปราะบางอายุเกิน 70 ปี ดูจากประวัติ​การรักษา​พบว่ามีโรคประจำตัวต้องเฝ้าระวังและรักษาอย่างต่อเนื่อง และเบื้องต้นได้แยกขังเดี่ยวอยู่แดน 7 ซึ่งเป็นสถานพยาบาล​เฝ้าระวัง 24 ชม. หลังจากกักตัวครบ 10 วันแล้วจะต้องประเมินอาการอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้พิจารณา โดยช่วง 5 วันแรกจะกักขังแบบเข้มข้นเข้าพบได้เพียงทนายความ และญาติ ส่วนช่วง​ 5 วันหลังองค์กรหรือผู้แทนต่างๆสามารถเข้าเยี่ยมได้

นายสิทธิ กล่าวว่า ทั้งนี้หลังนายทักษิณ​ ก้าวสู่เรือนจำได้ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสีกรมท่า​เข้ม เดินไปจุดทำประวัติ พบอาการยังเป็นปกติ ไม่มีสีหน้ากังวลแต่อย่างใด ส่วนการตัดผมเป็นตามระเบียบ แต่ไม่ถึงต้องก้อนผม เพราะนายทักษิณ​ เป็นผู้สูงอายุ

นพ.วัฒน์ชัย กล่าวว่าจากการตรวจสุขภาพ​พบประวัติ พบ 4 โรค ได้แก่

  1. โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ต้องทานยาบะลายลิ่มเลือด
  2. โรคปอด ซึ่งพบว่าเคยเป็น​โรคปอดอักเสบรุนแรง จากการเคยเป็นโรคโควิด-​19 แม้รักษาหายแล้วแต่เป็นพังผืด
  3. ความดันโลหิต​สูง ต้องรักษาโดยการรับประทานยา
  4. ภาวะเสื่อมตามอายุ ซึ่งปัจจุบันนายทักษิณ​มีอายุ 74 ปีมีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม และมีการกดทับเส้นประสาท ทำให้การเดินทรงตัวผิดปกติแต่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงเข้าข่ายเป็นกลุ่มเปราะบางจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง

ขณะที่นายนัสที​ กล่าวว่า กลุ่มเปราะบางจะต้องดูแลตามมาตรการระเบียบกรมราชทัณ​ฑ์ต้องมีแดนเพื่อรักษาความปลอดภัย และทำกิจกรรมอื่นๆก็เช่นเดียวกับผู้ต้องขังคนอื่น ส่วนการพบทนายและการเยี่ยม​ญาติ เป็นไปตามหลักปฏิบัติ​ของผู้ต้องขัง

นายนัสที​ กล่าวด้วยว่าสำหรับขั้นตอนการทำเรื่องอภัยโทษผู้ต้องขังสามารถยื่นเรื่องได้ทันทีภายหลังเข้าเรือนจำ โดยนายทักษิณ​ หรือญาติยื่นเอกสารให้ทางเรือนจำจากนั้นคณะกรรม​การพิจารณา​ส่งเรื่องไปยังกรมราชทัณฑ์​และจะพิจารณาก่อนส่งไปยังกระทรวงยุติธรรม​ เพื่อส่งเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรี​ลงนาม และยื่นถึงสำนักองค์มนตรี โดยนายทักษิณ​ ยื่นขออภัยโทษเป็นการเฉพาะราย ทั้งนี้กระบวนการจะเสร็จสิ้นไม่เกิน 2 เดือน

iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
(100K+)