กำหนดการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก.พ. – เม.ย. 65

ทั่วไป

4,993 VIEWS

“กรมบัญชีกลาง” แจง กำหนดการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เมษายน 2565 โดยผู้ถือบัตรบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน รับเงินเพิ่มอีก 200 บาท เริ่มงวดแรก 1 กุมภาพันธ์ 2565

28 มกราคม 2565 – เพจกรมบัญชีกลาง เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับกำหนดการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคน) ของเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เมษายน 2565 โดย นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 รับทราบและอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 โดยเห็นชอบโครงการ ดังต่อไปนี้

  1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4
  2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และ
  3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4

โดยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 จะช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 นั้น กรมบัญชีกลางจึงขอชี้แจงเกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน 2565 ดังนี้

สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยแบ่งจ่ายตาม กำหนดการจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในแต่ละเดือน ดังนี้

ทุกวันที่ 1 ของเดือน

  • วงเงินซื้อสินค้า 400/500 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 200 บาท)
  • ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

หมายเหตุ: สิทธิประโยชน์ข้างต้นที่ได้รับทุกวันที่ 1 ของเดือนจะไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไปได้

ทุกวันที่ 18 ของเดือน

  • เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน)
  • เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง)

หมายเหตุ: สิทธิประโยชน์ข้างต้นที่ได้รับทุกวันที่ 18 ของเดือนสามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสามารถสะสมในเดือนถัดไปได้

ทุกวันที่ 22 ของเดือน

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ)

หมายเหตุ: สิทธิประโยชน์ข้างต้นที่ได้รับทุกวันที่ 22 ของเดือนสามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสามารถสะสมในเดือนถัดไปได้

โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 หวังช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากโควิด

“สำหรับโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของ COVID-19 แก่กลุ่มที่มีความเปราะบางทางด้านรายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สิน และผู้ต้องการความช่วยเหลือ ตลอดจนรักษาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2565 ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 022706400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว

บุคคล 3 กลุ่มที่เปิดให้ลงทะเบียน ‘บัตรคนจน’ ได้

  1. ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาก่อน
  2. กลุ่มตกหล่นจากมาตรการของรัฐที่ผ่านมาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ
  3. ผู้ที่ได้รับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม 13.65 ล้านคน ก็ต้องลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่อีกครั้ง

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียนสมัครบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

  1. เป็นผู้มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป
  2. ว่างงานหรือมีรายได้ส่วนตัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
  3. ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน  สลาก ธ.ก.ส. พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ หรือมีทรัพย์สินดังกล่าวแต่มูลค่ารวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท
  4. ต้องนำรายได้ต่อครัวเรือนมาประกอบการพิจารณาด้วย

ขั้นตอนการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

  1. ไปธนาคารที่สะดวก ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส.
  2. แสดงบัตรประชาชน
  3. กรอกแบบฟอร์มแจ้งข้อมูลส่วนตัว รายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สินของตน
  4. เก็บหลักฐานไว้เพื่อยืนยันการลงทะเบียน
iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
(100K+)