“เที่ยวดีมีคืน” ลงทะเบียน รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีช่องทางไหน?
เที่ยวดีมีคืน เป็นสิทธิลดหย่อนที่จะได้รับเมื่อยื่นภาษีเงินได้ประจำปี ไม่จำเป็นต้อง “ลงทะเบียน” แต่อย่างใด โดยใช้เป็น ค่าลดหย่อน ได้สำหรับค่าที่พักและค่าบริการร้านอาหาร ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568 ตามจำนวนที่จ่ายจริง (รวม VAT แล้ว) แต่สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท เฉพาะค่าที่พักหรือค่าบริการที่มีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่อยู่ในรูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) จากระบบของกรมสรรพากร แต่ถ้าเป็นค่าที่พักหรือค่าบริการในจังหวัดรอง จะได้สิทธิลดหย่อน 1.5 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท ทำให้ได้สิทธิลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท
เงื่อนไขการรับสิทธิ เที่ยวดีมีคืน ไม่ต้อง ลงทะเบียน แต่อย่างใด
คุณเองก็มีสิทธิหักลดหย่อน เที่ยวดีมีคืน – ค่าลดหย่อนท่องเที่ยวในประเทศ 2568 สูงสุด 30,000 บาท ได้ถ้าทำตามเงื่อนไขทั้งหมดต่อไปนี้
- เป็นการจ่ายค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมและค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่เกิดขึ้นระหว่าง 29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568
- มีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มรูป (หากมีหลักฐานเป็นเพียงใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปในรูปแบบกระดาษจะได้เพียงสิทธิลดหย่อนส่วนแรก 10,000 บาท เท่านั้น)
ค่าที่พักและค่าบริการที่ลดหย่อนภาษี เที่ยวดีมีคืน ได้
ค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมและค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่มีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ที่ปรากฏชื่อและข้อมูลผู้ซื้อด้วย หากมีหลักฐานเพียงใบกำกับภาษีแบบกระดาษจะได้เพียงสิทธิลดหย่อนส่วนแรก 10,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ หากจ่ายค่าที่พักและค่าบริการให้ผู้ประกอบการที่ไม่ได้เข้าระบบ VAT จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
หลักฐานที่ต้องใช้
- รับสิทธิลดหย่อนเฉพาะส่วนแรก 10,000 บาท – ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ ที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณ (เลขบัตรประชาชน 13 หลัก) รวมถึงวันที่ รายการและจำนวนเงินด้วย
- รับสิทธิลดหย่อนได้ทั้งส่วนแรก 10,000 บาท + ส่วนที่สองอีก 10,000 บาท – ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปเฉพาะแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ที่ระบุข้อมูลผู้ขาย และระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณ (เลขบัตรประชาชน 13 หลัก) รวมถึงวันที่ รายการและจำนวนเงินด้วย
หากเป็นค่าที่พักและค่าบริการร้านอาหารในจังหวัดรอง จะได้สิทธิลดหย่อนเพิ่มเป็น 1.5 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง ทำให้ได้สิทธิลดหย่อนสูงสุดเป็น 30,000 บาท
