บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กุมภาพันธ์ 2566 โอนเงินงวดแรกวันไหน?

ทั่วไป

7,440 VIEWS

ไทม์ไลน์การโอนเงินเข้า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) กุมภาพันธ์ 2566 โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ทุกวันที่ 1 วันที่ 18 และวันที่ 22 ของเดือน

กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้กำหนดการโอนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (โอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ทุกวันที่ 1 , 18 และ 22 ของเดือน ส่วนวันที่ 18 และ 22 ของเดือนสามารถถอนเป็นเงินสดได้และสะสมในเดือนถัดไปได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ไทม์ไลน์การโอนเงินเข้า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของ กุมภาพันธ์ 2566

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566

เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เข้าไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป ได้แก่

  • วงเงินซื้อสินค้า 200 – 300 บาท/เดือน
  • ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาท/ 3 เดือน (มกราคม – มีนาคม 2566)
  • ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย
    • ค่ารถ บขส. 500 บาท/เดือน
    • ค่ารถไฟ 500 บาท/เดือน
    • ค่ารถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และ ขสมก. 500 บ./เดือน (สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ใน กทม. และปริมณฑล)

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566

เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เข้าสามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้ ได้แก่

  • เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาท/ครัวเรือน/เดือน (สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาท/เดือน)
  • เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาท/ครัวเรือน/เดือน (สำหรับผู้ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาท/เดือน จะได้รับเงินคืนไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกิน ผู้ถือบัตรฯ จะต้องชำระเอง)

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เข้าสามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้ ได้แก่

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาท/เดือน (สำหรับผู้ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ)

สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ไม่ประสงค์จะใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถส่งคืนได้ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสามารถติดตามข่าวสารของกรมบัญชีกลางได้จากช่องทางต่างๆ ของกรมบัญชีกลาง

กระทรวงการคลังตรวจสอบคุณสมบัติบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ ประกาศผลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของผู้ลงทะเบียนสำหรับการใช้สิทธิเดือนมกราคม 2566 โดยตรวจสอบสถานะผ่าน-ไม่ผ่าน ได้ที่เว็บไซต์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ https://welfare.mof.go.th

เช็คผลการลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ทางไหน?

  • เว็บไซต์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ https://welfare.mof.go.th

ขั้นตอนการ เช็กผลการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องทำอย่างไรบ้าง?

  1. ไปที่เว็บไซต์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลัง https://welfare.mof.go.th
  2. กดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน”
  3. ที่หน้าตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน ให้กรอกข้อมูลเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด (พ.ศ.) โดยให้กรอกข้อมูลตามหน้าบัตรประจำตัวประชาชนใบล่าสุดและยังไม่หมดอายุ ในกรณีไม่ทราบวันเกิด / เดือนเกิด ให้เลือก “ไม่ทราบวันเกิด” / “ไม่ทราบเดือนเกิด”
  4. กดปุ่ม “ตรวจสอบข้อมูล”
  5. ระบบจะแสดงผลสถานะการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า ผ่าน-ไม่ผ่าน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมในวัน เวลาราชการได้ที่ช่องทางต่อไปนี้

  • Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 02-109-2345 และ
  • Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400

สิทธิประโยชน์ของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้ถือบัตรคนจน)

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดภาระค่าครองชีพ เช่น

  1. ค่าซื้อสินค้า 200-300 บาท
  2. ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ 500 บาท
  3. ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน) กรณีเป็นกลุ่มเปราะบาง จะได้ส่วนลด 100 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน)
  4. เงินช่วยค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือน (ตามที่จ่ายจริง)
  5. เงินช่วยค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือน (ตามที่จ่ายจริง)
  6. เงินพิเศษผู้พิการ 200 บาท
  7. ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เป็นพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย ร้านค้าขนาดเล็กต่างๆ จะได้ส่วนลดก๊าซหุงต้มพีที (ปตท.) 100 บาท ที่ร้านจำหน่ายที่ร่วมโครงการ
  8. เงินพิเศษผู้สูงอายุ 50-100 บาท (ขึ้นอยู่กับเกณฑ์รายได้)

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียนสมัครบัตรคนจน รอบใหม่

  1. เป็นผู้มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป
  2. ไม่เป็นบุคคล ดังต่อไปนี้
    • ภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
    • ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขัง
    • บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานของรัฐ
    • ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
    • ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
    • ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา
  3. ว่างงานหรือมีรายได้ส่วนตัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง (การคำนวณรายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคำนวณได้จากการรวมรายได้ของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)
  4. ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ของผู้ลงทะเบียนต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง และหากมีครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง (การคำนวณทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนคำนวณได้จากการรวมมูลค่าทรัพย์สินทางการเงินของผู้ลงทะเบียน และสมาชิกในครอบครัวของผู้ลงทะเบียน หารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)
  5. ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือถ้ามีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
    • กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว
      1. ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
        • กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา และ/หรือ ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
        • กรณีเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
      2. ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
        • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่หรือ
        • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
    • กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว
      1. ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)
        • กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว 
          • ผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
          • ผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
          • ผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
          • ผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
        • กรณีเป็นที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่
      2. ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย
        • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือ
        • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่
  6. ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีบัตรเครดิต ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
  7. ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ ได้แก่ วงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และ/หรือ วงเงินกู้สำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท
iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
(100K+)