ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรประชารัฐ 2566

ทั่วไป

ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรประชารัฐ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติในวันที่ 1 มีนาคม 2566 และต้องยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์

การประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติในวันที่ 1 มีนาคม 2566 

กรณีผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ

ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป สามารถเดินทางไปยืนยันตัวตนผ่าน 3 หน่วยงาน ได้แก่

  • ธนาคารกรุงไทย – ให้บริการยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 โดยยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการ
  • ธนาคารออมสิน – ให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วัน นับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) – ให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วัน นับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566

กรณีไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ

1. ยื่นอุทธรณ์ 

โดยสามารถเลือกดำเนินการได้ 2 วิธี คือ

  • อุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านเว็บไชต์
  • ติดต่อหน่วยงานรับลงทะเบียนเพื่อยื่นอุทธรณ์

2. ติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่านเพื่อตรวจสอบ/ขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

หลังจากยื่นอุทธรณ์แล้ว ผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติต้องติดต่อหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ไม่ผ่านเพื่อตรวจสอบ/ขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไปและจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566

ระยะเวลาโครงการ

1. เปิดรับลงทะเบียน (5 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565)

รับลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์และหน่วยรับลงทะเบียน

2. ประกาศผลการลงทะเบียน (กันยายน 2565)

ประกาศผลการลงทะเบียนและผลการตรวจสอบการพิจารณาคุณสมบัติความสัมพันธ์กับกรมการปกครอง (ทุกวันศุกร์)

  • ถูกต้อง – รอตรวจสอบคุณสมบัติ
  • ไม่ถูกต้อง – แก้ไขข้อมูลที่หน่วยรับลงทะเบียน

3. ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ (มีนาคม 2566)

ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรประชารัฐ

  • ผ่าน – รอยืนยันตัวตน
  • ไม่ผ่าน – อุทธรณ์ผล

4. ยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ (มีนาคม 2566)

  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

5. ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (1 เมษายน 2566)

ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรประชาชน

เอกสารสำหรับตรวจสอบผล และการอุทธรณ์ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565

1. กรณีตรวจสอบผล / ยื่นอุทธรณ์ผ่านเว็บไซต์

ทั้งนี้ สามารถดำเนินการผ่านเว็บไซค์ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้เอกสาร

2. กรณีตรวจสอบผล / ยื่นอุทธรณ์ผ่านหน่วยรับลงทะเบียน

  • คลังจังหวัด
  • ที่ว่าการอำเภอ
  • สนง.เขต กทม.
  • ศาลาว่าการเมืองพัทยา
  • ธ.กรุงไทย
  • ธ.ออมสิน
  • ธ.ก.ส.

กรณีดำเนินการด้วยตนเอง

  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน

กรณีมอบอำนาจ

ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาอุทธรณ์ได้เองสามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาลงทะเบียนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้

  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
  • หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์โครงการฯ)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ได้รับมอบอำนาจพร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
  • สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)

เอกสารสำหรับการยืนยันตัวตน โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565

ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ต้องเดินทางไปยืนยันตัวตนผ่านหน่วยงานที่กำหนด ดังนี้ 

  • ธ.กรุงไทย – ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
  • ธ.ออมสิน – วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566
  • ธ.ก.ส. – วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566

1. กรณีเดินทางมาด้วยตนเอง

  • บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ลงทะเบียน)
  • ใบสำคัญการหย่า หรือ ใบมรณะบัตร หรือ หนังสือรับรองการตาย หรือทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตาย (เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไข)

2. กรณีมอบอำนาจ

ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้เอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้

  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน
  • ใบสำคัญการหย่า หรือ ใบมรณะบัตร หรือ หนังสือรับรองการตาย หรือทะเบียนบ้านที่มีการจำหน่ายการตาย (เฉพาะผู้ผ่านเกณฑ์แบบมีเงื่อนไข)
  • หนังสือมอบอำนาจ (ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์โครงการฯ)
  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
  • สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี) ให้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานยืนยันตัวตน

หมายเหตุ: ผู้ได้รับสิทธิจะต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์ ด้วยหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ

ตารางช่วงเวลายืนยันตัวตน และการได้รับสิทธิ

ช่วงเวลายืนยันตัวตน

  • 1 มีนาคม – 26 มีนาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2566 และได้รับสิทธิตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป
  • 27 มีนาคม – 26 เมษายน 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2566 และได้รับสิทธิย้อนหลังไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้าฯ) เท่านั้น)
  • 27 เมษายน – 26 พฤษภาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2566 และได้รับสิทธิย้อนหลังไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้าฯ) เท่านั้น)
  • 27 พฤษภาคม – 26 มิถุนายน 2566 เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 และได้รับสิทธิย้อนหลังไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (ร้านธงฟ้าฯ) เท่านั้น)
  • 27 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2566 และไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โดยจะได้รับสิทธิเฉพาะเดือนที่กระทรวงการคลังดำเนินการตั้งวงเงินให้

หมายเหตุ: ผู้ได้รับสิทธิจะต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์ ด้วยหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ

‘คลัง’ พร้อมแล้ว ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

28 กุมภาพันธ์ 2566 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ส่งข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 ที่มีสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์ให้หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัตินั้น บัดนี้ การดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในโครงการฯ ได้กำหนดวันประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติโครงการฯ ปี 2565 ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 ซึ่งผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์สามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

  1. ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเอง ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
  2. ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่
    • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
    • ธนาคารออมสิน
    • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ)
    • สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง
    • ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
    • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และ
    • ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา
      ทั้งนี้ ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงานสำหรับการตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานรับลงทะเบียนแต่ละแห่ง
  3. โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันจันทร์ – วันศุกร์ตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

นายอาคมยังกล่าวเพิ่มเติมในรายละเอียด ดังนี้

  1. ผู้ลงทะเบียนที่ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 แล้ว พบว่า เป็นผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 ต้องยืนยันตัวตน ณ ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย ณ ธนาคารดังกล่าวตามวันและเวลาทำการของแต่ละธนาคาร
  2. เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  3. ธ.ก.ส. และธนาคารออมสินจะให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วันนับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ (วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566) และธนาคารกรุงไทยฯ จะให้บริการยืนยันตัวตน โดยยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการ สำหรับการยืนยันตัวตนในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร
  4. ผู้ลงทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ โดยสามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารใดก็ได้ ทั้งนี้ การผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้า จะทำให้ผู้ได้รับสิทธิสะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการหากกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคต

ทั้งนี้ หากพบว่าสถานะการยืนยันตัวตนสมบูรณ์ ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติจึงจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ในกรณีที่ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่วันที่ 1 – 26 มีนาคม 2566 และในกรณีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2566 เท่านั้น

ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรประชารัฐ แล้วไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา สามารถอุทธรณ์ได้

สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 แล้ว พบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ปี 2565 ผู้ลงทะเบียนสามารถยื่นขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่

  1. ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
  2. ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทยฯ ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน โดยให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติ โดยผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติจะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์

นายอาคมกล่าวเน้นย้ำว่า หลังจากผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติดำเนินการยืนยันการขออุทธรณ์ตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จะต้องดำเนินการขอตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด เพื่อขอปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ ปี 2565 เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 02-109-2345 ในเวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.

iTAX คำนวณและวางแผนภาษี
(100K+)